บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านธุรกิจวิศวกรรมในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่มีความเชี่ยวชาญมากในการใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ร่วมกับ “บีทาเก้น” บริษัทชั้นนำในการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม พวกเขาได้ร่วมกันนำทีมสื่อมวลชนมาเยี่ยมชมกระบวนการทำงานของเครื่องจักรอัตโนมัติในโรงงานบีทาเก้นที่ตั้งอยู่ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และได้ทำการอวดศักยภาพการผลิตของเครื่องจักรอาหารชั้นนำของไทยที่เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล
นายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล กรรมการผู้จัดการของบริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) ได้เสนอว่า ในปัจจุบัน โรงงานผลิตอาหารในประเทศไทยมีมากกว่า 20,000 ราย แต่ยังไม่ถึง 1% เท่านั้นที่ได้นำระบบอัตโนมัติมาใช้ในกระบวนการผลิต เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเต็มที่ พัฒน์กลเป็นบริษัทสัญชาติไทยรายแรกและรายเดียว ที่มีความสามารถในการให้คำปรึกษา ออกแบบ และติดตั้งระบบอัตโนมัติที่เหมาะกับสายการผลิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม โรงงานผลิตเครื่องดื่ม โรงงานผลิตน้ำแข็ง หรือระบบทำความเย็น และอื่นๆอีกมากมาย
ระบบอัตโนมัติมีคุณสมบัติที่ช่วยแก้ไขปัญหาความยุ่งยากในกระบวนการผลิตอาหาร
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดจากความไม่เข้าใจของพนักงาน การขาดการตรวจสอบและการซ่อมบำรุงเครื่องจักรตามระยะเวลา หรือขาดช่างและแรงงานฝีมือ ระบบนี้ช่วยให้กระบวนการผลิตมีความแม่นยำและเน่าอน ลดการสูญเสียและรักษาคุณภาพของสินค้าให้คงที่ โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานของมนุษย์แรงงาน นอกจากนี้ ระบบควบคุมแบบอัตโนมัติยังช่วยเพิ่มความเป็นมาตรฐานในการผลิตอาหารในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพและนับว่าเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในสากลได้อย่างแท้จริงและยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
“พัฒน์กล ก้าวข้ามแหล่งบุญคุณในการพัฒนาระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมอาหารมาเป็นเวลากว่า 15 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญอันยาวนานในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรามั่นใจว่าเราสามารถขยายฐานลูกค้าของเราได้ทั้งในและนอกประเทศอย่างกว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก เราคาดหวังว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ซึ่งเป็นค่าที่มากกว่าคู่แข่งทั้งหมดที่เป็นบริษัทต่างชาติทั้งหมด ดังนั้นเราเชื่อว่าธุรกิจของเรายังมีโอกาสที่จะเติบโตอีกมากในอนาคต โดยเราพยายามทำนายว่าในปี 2561 ตลาดระบบอัตโนมัติจะขยายตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่า” นายแสงชัยเสนอความมั่นใจของเขาในอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมอาหารและการส่งออกอาหารในภูมิภาคอาเซียนกำลังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในประเทศที่พัฒนาแล้ว การผลิตอาหารกำลังเข้าสู่ยุคที่ต้องพัฒนาและปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ นี้ส่งผลให้มีการนำเทคโนโลยีอัตโนมัติมาใช้ในกระบวนการผลิตอาหารในทุกภาคส่วนอย่างแพร่หลาย การใช้ระบบอินเตอร์เน็ตในการควบคุมเครื่องจักร ระบบเซ็นเซอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ มีไว้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา หรือลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นการซ่อมบำรุงเครื่องจักร ทรัพยากรบุคคล และอื่นๆ” นายแสงชัยสรุปแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารและการส่งออกอาหารในภูมิภาคอาเซียนอย่างมีความมั่นใจและท้าทายกับคู่แข่งอื่นๆ ที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความเจริญเติบโตในอนาคตของอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างชัดเจน และมีความมั่นใจอันแข็งแรง
บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) เป็นนักพัฒนาและผู้นำในอุตสาหกรรมวิศวกรรมที่มุ่งเน้นให้บริการแบบ One-stop service ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของกระบวนการสร้างโครงการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์นม ห้องเย็น และเครื่องทำน้ำแข็ง โดยที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจได้ในคุณภาพและความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ตลอดทั้งกระบวนการที่รวมถึงการทำพิมพ์เขียว การให้คำปรึกษา การวางแผน การออกแบบ และติดตั้ง
อันที่จริง บริษัทฯไม่เพียงเท่านั้นที่ให้บริการเช่นนี้ แต่ยังเป็นผู้ผลิตเครื่องทำน้ำแข็ง แช่แข็ง ถังอุตสาหกรรม และเครื่องล้างถาดอุตสาหกรรมอีกด้วย โดยเฉพาะในส่วนของระบบเครื่องทำความเย็นนั้น บริษัทฯเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในเมืองไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสร้างความไว้วางใจในความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการผลิตเครื่องทำความเย็นที่มีมาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเป็นรายเดียวในโลกที่สามารถทำโรงงานปลาทูน่าแบบครบวงจรได้ นั่นหมายความว่า ลูกค้าที่มีความต้องการในการผลิตปลาทูน่าสำเร็จและมีคุณภาพสูงสุด สามารถพึ่งพาบริษัทฯเพื่อรับบริการครบวงจรที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต. ด้วยความคุ้มค่าและความเชี่ยวชาญที่เหนือกว่า บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) ก้าวข้ามไปข้างหน้าในอุตสาหกรรมและยังคงเป็นนักพัฒนาที่น่าสังเกตในอาเซียนและระดับโลก
สามารถติดตามต่อได้ที่ : http://thewindustry.com/factoryvisit/detail/7414v213
ในการประกอบธุรกิจด้านอาหารเทคโนโยลีที่เหมาะสมกับกระบนการทำ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การเพิ่มการผลิต เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกจ้างมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเทคโนโลยีก็ยังมีความอันตรายเนื่องจากด้วยแรงของเครื่องจักรที่มีมากพอที่ทำให้มนุษย์บาดเจ็บได้หากไปสัมผัสโดนในเวลาที่เครื่องจักรทำงาน ธุรกิจประเภทอาหารจึงจัดอยู่ในบัญชี 2 ตามกฎกระทรวงที่ต้องมีการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอกภัยในการทำงาน (จป.) และ คณะกรรมการความปลอดภัยฯในการทำงาน (คปอ)
คณะกรรมการความปลอดภัยฯในการทำงาน (คปอ) เป็นกลุ่มคณะที่มาจากการเลือกจากทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างเข้ามาร่วม เสนอแนะแนวทางความปลอดภัยในทั้งด้านของนายจ้างและลูกจ้างที่พบเห็นความอันตรายที่เกิดขึ้น พร้อมช่วยกันปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นเพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งคนเหล่านึกต้องผ่านการ ทดสอบหลักสูตรคปอ จากศูนย์อบรมคปอ ที่ได้รับการยอมรับเปิดอบรมตามกฎหมาย